วันก่อนได้ไปอ่านบทความหนึ่งได้พูดถึงหนึ่งวันกับการที่ไม่สามารถใช้งาน wifi ได้
เป็นเหตุให้ไม่สามารถเล่นเฟสบุ๊คได้หนึ่งวันเต็มๆ
เลยเกิดแรงบันดาลใจให้ลองทำ 30 วันหยุดเล่นเฟสบุ๊คดู น่าจะทำให้เห็นอะไรสนุกๆดีเหมือนกัน
ครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่หยุดเล่นเฟสบุ๊ค
ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะไม่ได้ฉุกคิดว่าเราได้อะไรจากการทำแบบนี้มากนัก
แต่ครั้งนี้ เรามองเห็นอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม
----
Day 1
ลองหยุดเล่นเฟสบุ๊ควันแรก
ก็ดีเหมือนกันนะ มีเวลาเหลือทำอะไรอีกเยอะ
----
เราได้เห็นถึงเวลาที่มีเหลือเฝือเพิ่มมากขึ้น อย่างชัดเจน
จากเดิมที่ทุกเช้า ตื่นนอนแปรงฟัน มันก็ต้องมีบ้างที่แปรงไปดูไป 10 นาทีไปล่ะ
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ใครเข้าห้องน้ำก่อง ก็ต้องมีอีก 10 นาทีที่นั่งไปดูไป
ระหว่างเดินทางไปทำงาน รถติดนี่ทั่วไปต้องมี 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
นี่ถ้าบางคนเดินทางโดยรถสาธารณะนี่มียาวไป 1-2 ชั่วโมงก็มี
พอมา กลางวัน กินข้าวเสร็จ ต้องมีก้มหน้าสังสรรค์กันราวๆ 20- 40 นาที
ในระหว่างวัน มันก็ต้องมีบ้าง สายๆ บ่ายๆเย็นๆ มาฟึดเล่น สัก 10-15 บ้างล่ะ
ช่วงเย็นกลับบ้านนี่ก็คงไม่ต่างกับขามาตอนเช้า เวลาที่ใช้คงพอกัน
พอตกดึกยามค่ำคืนนี่อาจจะยาวหน่อยคงมีอย่างน้อยๆ 1 ชั่วโมงเป็นแน่แท้
เท่าที่ดูเวลาคร่าวๆ
เราหมดเปลีองเวลาไปกับเฟสบุ๊ควันๆนึงประมาณ 2-4 ชั่วโมงต่อวัน
แล้วแต่ความสะดวกและเสพติดของแต่ละคน
หยุดวันแรกทำให้รู้ว่า
ได้เวลาว่างคืนกลับมาให้กับชีวิตเยอะมากเลย
-----
Day 2
ไม่ต้องอัพเดตฟีดโลกออนไลน์ เราก็ยังใช้ชีวิตปกติดีได้เหมือนกันแห่ะ
----
บ่อยครั้ง ที่เรามักจะบอกเล่าความรู้สึกของเราให้โลกรู้ผ่านสเตตัสบนเฟสบุ๊ค
แม้เราจะคิดว่าแค่ต้องการแสดงความคิดเห็นบางอย่างในใจของเราแล้ว
แต่ลึกๆแล้ว เราต่างก็ต้องการการตอบสนองจากสิ่งที่เราแสดงออกไปทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นต้องการไลค์
อยากเห็นคอมเม้นท์ต่างๆจากคนรอบข้างที่รับรู้การแสดงออกของเรา
และหลายครั้งเราก็มักจะคิดไปต่างๆนาๆตามความคิดเห็นที่เข้ามาเหล่านั้น
จนทำให้เราหลงลืมความเป็นตัวตนและความต้องการของเราจริงๆ
การตัดโลกแห่งความคิดเห็นของคนอื่นไปบ้าง
ก็ทำให้เราเห็นตัวตนของตัวเองชัดขึ้น
และฟังเสียงหัวใจและความคิดของตัวเองมากขึ้นว่าแท้ทีจริงแล้ว
เราเป็นคนแบบไหนแล้วต้องการอะไรกันแน่
----
Day 3
มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ใส่ใจและสนใจในความต้องการของตัวเอง
รวมทั้งความเป็นไปของตัวเองมากขึ้น
----
โดยปกติทั่วไป
เรามักจะต้องอัพเดตฟืดของเพื่อนอยู่เสมอ
เลยอาจจะมีหลายครั้งที่เราสนใจ
แต่ความเป็นไปของผู้อื่นจนลืมนึกถึงตัวเองบ้างเหมือนกัน
เราอาจจะหลงลืมไปว่าที่จริงแล้วเราต้องการอะไร หรือสนใจอะไร
และแม้กระทั่งลืมที่จะใช้เวลากับกิจกรรมอะไรที่ตัวเองสนใจทำ
เพราะมัวแต่สนใจความเคลื่อนไหวของคนอื่นไปเรื่อย
เวลาผ่านไปเร็วมากเหลือเกิน
อย่ามัวใช้อย่างเพลิดเพลินกับคนอื่นจนลืมสนใจเรื่องตัวเอง
----
Day 4
เราหยุดวิจารณ์ หรือ ตัดสินคนอื่นน้อยลง
เพราะแค่คุณจะเลือกไลค์หรือไม่ไลค์ คุณก็ได้ใช้การตัดสินใจว่าชอบหรือไม่
หรือแม้แต่คอมเม้นท์ความรู้สึกของคุณลงไปนั้น
ก็เท่ากับคุณได้ตัดสินกับการการะทำของคนโพสต์เหล่านั้นไปแล้วด้วยส่วนหนึ่ง
----
แค่การที่เราเลือกว่าจะไลค์หรือไม่
เราก็ได้ใช้ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจกับสิ่งที่เขาโพสต์ไปแล้ว
ไม่นับการคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นด้วยนะ
บ่อยครั้งที่เรามักจะนำโพสต์ต่างๆนาๆของบางคน
มาเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาหรือ เม้าส์มอยด์ในกลุ่มเพื่อนของเราอย่างสนุกปาก
ซึ่งเราอาจจะหลงลืมไปว่า
บางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรนักหรือเพิ่งกระทำมากนัก
แม้มันจะทำให้เจ้าตัวไม่รู้เรื่องใดๆก็ตาม
การวิจารณ์แบบสร้างสรรค์เป็นเรื่องดี
แต่การวิจารณ์ด้วยรมปากและความคิดมันก็ไม่ต่างกับการนินทานั่นเอง
----
Day 5
ไม่รู้ความเคลื่อนไหวชีวิตคนอื่นบ้าง ทำให้เราหยุดเปรียบเทียบชีวิตกัน
และ อยากมีอยากเป็นแบบใครเขาน้อยลง
----
เคยไหมที่เห็นใครๆโพสต์แล้วรู้สึกว่า เค้าดูมีความสุขจัง เค้าดูมีชีวิตดีดี
มีอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่มี มีอะไรหลายๆอย่างที่เราอยากมี
และยิ่งได้เห็นบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น จากหลายคนมากขึ้น มันก็ยิ่งเป็นพลังดังอุปทานหมู่
ที่ทำให้เราเริ่มรู้สึกอยากมีและอยากเป็นเช่นใครๆเขา บ้างเช่นกัน
บางทีสิ่งของบางอย่างมันก็อาจจะไม่ได้จำเป็นหรือสำคัญกับเรามากนัก
แต่พอมันเป็นสิ่งที่สังคมคนส่วนใหญ่มี
มันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราควรจะต้องมี
เพื่อให้ทัดเทียมกับสังคมคนทั่วไปด้วยเช่นกัน
สิ่งที่เรามี และ เราเป็น อาจจะทำให้เรามีความสุขในแบบของเราได้
ถ้าเราไม่นำสิ่งเหล่านั้นไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่คนอื่นมี และ คนอื่นเป็น มากเกินไป
----
Day 6
การสนใจความเปลี่ยนแปลงของชีวิตคนอื่น
ไม่ได้มีผลทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่การสนใจและรู้จักตัวเอง สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นหรือแย่ลงได้
----
ในแต่ละวัน มีกี่ครั้ง ที่เราจะเฝ้าคิดถึงและสนใจความเปลียนแปลงไปของชีวิตตัวเอง
เมื่อเทียบกับการสนใจความเคลื่อนไหวของชีวิตผู้อื่น
การสนใจเหตุการณ์ภายนอกหรือ สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเป็นเรื่องดี
แต่การสนใจกับเรื่องราวเหล่านั้นมากเกินไป
อาจจะทำให้เราหลงลืมว่าชีวิตเรานั้นก็มีอะไรที่ควรจะต้องสนใจหรือใส่ใจมากเหมือนกัน
เวลาในชีวิตของคนเรานั้นแสนสั้น
เราควรจะใช้มันเพื่อตัวเราเองมากกว่าใช้มันเพื่อผู้อื่น
นี่เป็นแค่ความรู้สึกของ 6 วันแรกที่หยุดเล่นเฟสบุ๊ค
ยังเหลืออีก 24 วันกว่าจะครบกำหนด
เวลาที่เหลืออีกหลายวันนั้นนี้ น่าจะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรต่างๆอีกมากมาย
จากการทำ 30 days challenge หยุดเล่นเฟสบุ๊ค
เชื่อว่าจบงานนี้
คงจะทำให้ความคิดทัศนคติต่างๆ
ในการใช้ชีวิตของเราเปลียนไปไม่มากก็น้อย
แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ตอนนี้คือ
'จงเล่นโซเซียล แต่อย่าให้โซเซียลเล่นเรา'
by H'esdy
#HappyEverySingleDay
http://facebook.com/HappyEverySingleDay
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น