ตากฝน




วันก่อนนะ
ฝนตกหนักมาก
แม้กระทั่งคนที่พกร่มมา ยังไม่กล้าเดินฝ่าไป
ฉันนั่งมองสายฝนตรงหน้า
มีละอองเม็ดฝนเบาๆสาดเข้ามากระทบใบหน้าเหมือนกำลังฉีดสเปย์น้ำแร่ออร่าใส่หน้าตอนเช้าไง

แสงฟ้าแล่บ ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้อง
ทำให้เผลอต้องสะดุ้งทุกทีไป

บางคนก็ทยอยเดินฝ่าฝนไปบ้าง
ทั้งที่มีร่มบ้าง เสื้อกันฝนบ้าง สลับกันเดินผ่านไป
บางคนยังคงยืนอยู่ที่เดิม รวมถึงตัวฉัน
ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะอยู่หรือจะไป

ร่มก็ไม่มี เสื้อกันฝน ก็ไม่ได้เอามา
แล้วจะเอายังไง

ไม่นานนักมีแท็กซี่หลงเข้ามา
รีบเดินหน้าปรี่เข้าไป
แต่ไม่ไวเท่าใครคนนั้น
ที่เค้าก้าวไวกว่ากันถึงประตูรถก่อนฉัน

กลับมายืนที่เดิม
มองสายฝนตรงหน้าเหมือนเดิม
กับความคิดใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม

ไม่มีร่มแล้วไง ไม่เสื้อกันฝนแล้วไง
เดินฝ่าฝนไปไม่ได้หรือไง
มีอะไรกังวลใจหรอ

กระเป๋าแบรนด์เนมหรอ
ก็พับๆยัดใส่กระเป๋าเป้ไป
รองเท้าหรอ ก็มันมีไว้ใช้ใส่ ถ้ามันเปียกเลอะ ก็กลับไปซักก็ได้มั้ง
ตัวเปียกหรอ สักพักก็แห้งมั้ง
ไม่สบายหรอ รีบกลับบ้านอาบน้ำก็ป้องกันได้มั้ง

ฉับๆๆๆๆๆ
เสียงฝีเท้าก้าวไปตามจังหวะ
หยดน้ำหลายหยดไหลถี่ลงมาที่ศีรษะ
ผ่านไปตามไหล่ ไหลมากองตามเสื้อผ้าจนซึมผ่านขาเข้ามาถึงในฝ่าเท้าได้

จากที่วิ่งอย่างรีบเร่ง
เริ่มเป็นกึ่งวิ่ง กึ่งเดิน
พอผ่านไปได้สักระยะ
ก็เริ่มเพลินเปลี่ยนเป็นเกือบเดินจนได้

อยู่ใต้ฟ้าใยจึงกลัวฝน
อยู่เป็นคนใยจึงกลัวปัญหารุ่มเร้าที่มากระทบใจเราไปได้

ชีวิตก็เหมือนอากาศ คาดเดาอะไรไม่ค่อยได้

หน้าร้อน แต่ฝนตกหนัก
หน้าหนาว ดันไม่เคยหนาว
หน้าฝน ดันร้อนมาก

ชีวิต
บางวันดี
บางทีแย่
บางวันทุกข์
บางชั่วโมงสุข
ไม่มีอะไรที่คาดเดาได้

แต่เราเลือกอยู่กับทุกสิ่ง ด้วยความคิดของเราได้
คิดดี
มองอะไรดี
มักเห็นอะไรดีดี
แม้ในวันที่อะไรไม่เป็นใจ
ใจก็ยังรู้สึกดี

by H’esdy
https://www.facebook.com/HappyEverySingleDay/
hesdyme.blogspot.com

ความคิดเห็น