เสพติดรักโรแมนติก


เพื่อน 1 : เป็นไงบ้าง
เพื่อน 2 : กระวนกระวายใจอ่ะ
เพื่อน 1 : เรื่องรักซินะ
เพื่อน 2 : ก็คุยๆกันอยู่ ยังไม่ชัดเจนอะไร แต่มันก็แบบพอเค้าไม่โทรมา ก็แบบหน่วงๆ คอยๆ รอๆ แบบว่ารบกวนจิตใจชมัด
เพื่อน 1 : เห็นภาพเลยอ่ะ ฟังแบบนี้ไม่มีอยากมีความรักเลย
เพื่อน 2 : อ้าว ไมอ่ะ
เพื่อน 1 : ไม่ชอบอารมณ์ที่ใครสักคนเข้ามาปั่นป่วนในหัว วนเวียนในใจ ทำให้เผลอใช้หัวใจมากกว่าสมอง ลืมเหตุผลเลือกใช้ความรู้สึก จนไม่สนใจอะไรที่สำคัญและจำเป็น โดยที่มัวแต่สนใจอะไรที่เกี่ยวกับใครคนนั้นเรื่องเดียว
เพื่อน 2 : เออ จริง แค่เค้ายังไม่โทรมา เพื่อนทักเลยเป็นไร หน้าตาดูตึงๆเครียดๆ พอเค้าโทรมาเท่านั้นอ่ะ หลังจากนั้นยิ้มแป้น หน้าบานทั้งวัน
เพื่อน 1 : อำนาจของความรัก ซินะ

จากที่เคยฟัง Ted talk หนึ่ง ของ นักมานุษยวิทยา Helen Fisher ได้พูดไว้ว่า “รักโรแมนติคเป็นหนึ่งในสารที่เสพติดได้มากที่สุดในโลก”

มันทำให้เราโหยหา สนใจ ใคร่อยากรู้ความเป็นไปของใครคนนั้นตลอดเวลา และอยากจะได้รับความสนใจ ใส่ใจ จากคนที่เรารักเกือบตลอดเวลาเหมือนกัน
พอห่างหาย หรือ ขาดติดต่อไประยะเวลาหนึ่ง จะมีอาการกระวนกระวายใจ หงุดหงิด แบบบอกไม่ถูก คล้ายๆคนจะลงแดง ยังไง อย่างนั้น

ความคิดในหัวสมอง มันจะวนเวียนมีแต่หน้าเค้า เรื่องของเค้าลอยไปลอยมาอยู่เรื่อยๆ เวลามีอะไรทำเยอะๆยุ่งๆ ก็มีบ้างที่เรื่องเค้าจะขาดหายเป็นช่วงๆ เหมือนประหนึ่ง มีโฆษณาคั่นเป็นระยะ แต่สุดท้าย มันก็จะแว๊บๆ ผ่านเข้ามาอยู่รบกวนใจอยู่ดี เรื่องราวของเค้าจึงฉายชัดเหมือนกับซีรีย์ที่มีหลายซีซั่นไม่มีวันจบสักที

อาการก็คงคล้ายๆ ตอนเราเป็นเด็ก ที่ต้องมีของสักอย่าง จะต้องพกพาไปด้วยทุกทีทุกเวลา เช่น ตุ๊กตา หมอน ผ้าห่ม ผ้าขนหนู เป็นต้น ถ้าขาดมันเมื่อไหร่ มีงอแงบ้าง มีร้องไห้ ไปซะทุกที

พอโตขึ้น มีสติมากขึ้น วุฒิภาวะที่มีสูงขึ้น เลยควบคุม การงอแง ร้องไห้ ฟูมฟายได้มากขึ้น เหลือแสดงออกมาในลักษณะกระวนกระวายใจ ลุกลี้ลุกลน สีหน้าที่หม่นหมอง กันไป

ในอีกด้านหนึ่ง ความรักก็มักจะมีแรงผลักดัน หรือ พลังบางอย่าง ที่จะต่อเติมทำให้เราอยากทำอะไรเพื่อที่จะทำให้คนที่เรารักมีความสุข รู้สึกดี
หรือแม้กระทั่งในยามทุกข์ใจ ท้อแท้ ความรักก็เป็นเหมือนเช่น เครื่องชาร์ตกำลังใจที่ดี เพื่อต่อเติมให้มีกำลังกาย กำลังใจ ต่อสู้กับเรื่องราวต่างๆในวันที่รู้สึกแย่เสียเหลือเกิน

ขึ้นชื่อว่า สารเสพติด เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจ
ถ้าเสพมากเกินไปก็เป็นอันตราย อาจจะทำร้ายเราได้อย่างไม่รู้ตัว

การเสพ “รักโรแมนติค” ในปริมาณที่พอเหมาะ น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะอะไรที่ไม่น้อยหรือมากไปย่อมเป็น ความสมดุลแบบพอดี

หลังจากประมวลผลเห็นชีวิตเพื่อนๆที่มีรักรอบตัวทั่วไป รู้สึกและคิดเองว่า ชีวิตที่ไม่มีเรื่องความรัก โรแมนติค มาวุ่นวายใจ จัดการชีวิตได้ง่ายดี

แม้ไม่มีความหวือหวา วูบวาบ ตื้นเต้น หวั่นไหว ในรัก

แต่ ชีวิตมีความเรียบง่ายนัก มีความ นิ่งๆ โล่งๆ โปร่งๆ เคว้งๆ คว้างๆ ว่างๆ สบายใจดี

เมื่อก่อน ยอมทำทุกอย่างเพื่อความรัก
พอโตมา เข้าใจเลยว่า ไม่มีรักดีกว่า ถ้ามันทำให้ไม่สบายใจสักที

by H’esdy
https://www.facebook.com/HappyEverySingleDay/
hesdyme.blogspot.com

ความคิดเห็น