ลืม เป็นหนึ่งในอาการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ปุตุชนคนทั่วไป
ที่น่าจะต้องได้ประสบพบเจอกันบ้างล่ะ
อาการนี้ จะมีอยู่ 2 วิธีที่จะเกิดขึ้น
1. ลืมเอง
2. อยากลืม
ข้อหนึ่งนี้ เราคงบอกไม่ได้มากหรอกว่า สาเหตุหรือที่มาที่ไปที่มันเกิดขึ้นมานั้น มาจากไหน และ เมื่อไหร่
บางคนก็เป็นอาการมาตั้งแต่ไหน แต่ไร หรือ บางทีตั้งแต่เกิด
ส่วนบางคนก็อาจจะหลงลืมเพราะไม่ได้ใส่ใจ
หรือ บางคน ก็หลงๆลืมๆ ด้วยวัย แก่ขึ้น ก็จำอะไรได้น้อยลง ลืมได้ง่ายขึ้น
ส่วนข้อสองนี้ ก็น่าจะมีสาเหตุหลักๆ เป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีต่อใจเท่าไร
เราเลยอยากจะตัดหนังชีวิตส่วนนี้ ออกไปจาก ความทรงจำ หรือ ความรู้สึกของเรา
ไอ้อาการอยากลืมนี่
มันก็เหมือนแมลงสาป ยิ่งหนี ยิ่งวิ่งเข้าหา ยิ่งแว๊บเข้ามาในใจเรา ความคิดของเราอยู่เรื่อย
นี่แหล่ะหนา ที่ใครๆบอกว่า ยิ่งลืม กลับจำ ยิ่งพยายามวิ่งหนี มันกลับยิ่งกระโจนเข้าใส่
หนึ่งในเรื่องที่คนเราอยากลืม มากที่สุด คือ ความรักเก่าๆที่ผิดหวัง ไม่สมดังใจ
ถ้าทำได้ ก็อยากจะ คลิ๊กขวาแล้วกดลบให้รู้แล้วรู้รอดไป (ถ้ามันทำได้อ่ะนะ)
แต่ชีวิตจริงไม่ได้มีโปรแกรมจัดการโฟล์เดอร์เหมือนในคอมพิวเตอร์
และ ระบบความทรงจำในสมองคนเราก็มีการจัดการที่ซับซ้อนกว่านั้น
การจัดการกับอาการอยากลืม เลยอาจจะต้องมีวิธีการมากมายและขั้นตอนซับซ้อนมากกว่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นสนใจเรื่องที่อยากลืมให้น้อยลง
สนใจสิ่งอื่นให้มากขึ้น
ยอมรับความผิดหวัง และปล่อยวางมันไว้
กล้าที่จะเริ่มต้นกับเส้นทางใหม่
แต่ทุกสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าจิตใจและความคิดของเราไม่กล้าและเข้มแข็งพอที่จะก้าวออกมาจากจุดเดิมๆเหล่านั้น
และนั่นคือ แรงผลักดันหลักที่จะทำให้ทุกคนก้าวข้ามผ่าน จุดที่เรียกว่า ลืม มาได้
แล้วคุณล่ะ?
ยังจำได้ไหม เรื่องสุดท้ายที่ตั้งใจจะลืม “นานแค่ไหนถึงจะลืม”
ปล. ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในแต่ละช่วงชีวิตของเรา
ทุกคนไม่มีใครลืมมันได้สนิทใจ หรือ หายไปหมดสิ้นจนไม่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำหรอก
เพียงแต่แค่ มันย้ายจากตำแหน่งที่สำคัญในความรู้สึกของคนเรา
ไปอยู่ในที่ที่เราอยากให้มันอยู่และถูกค้นพบในเวลาที่เราต้องการเพียงแค่นั้น
by H'esdy
http://facebook.com/HappyEverySingleDay
ที่น่าจะต้องได้ประสบพบเจอกันบ้างล่ะ
อาการนี้ จะมีอยู่ 2 วิธีที่จะเกิดขึ้น
1. ลืมเอง
2. อยากลืม
ข้อหนึ่งนี้ เราคงบอกไม่ได้มากหรอกว่า สาเหตุหรือที่มาที่ไปที่มันเกิดขึ้นมานั้น มาจากไหน และ เมื่อไหร่
บางคนก็เป็นอาการมาตั้งแต่ไหน แต่ไร หรือ บางทีตั้งแต่เกิด
ส่วนบางคนก็อาจจะหลงลืมเพราะไม่ได้ใส่ใจ
หรือ บางคน ก็หลงๆลืมๆ ด้วยวัย แก่ขึ้น ก็จำอะไรได้น้อยลง ลืมได้ง่ายขึ้น
ส่วนข้อสองนี้ ก็น่าจะมีสาเหตุหลักๆ เป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีต่อใจเท่าไร
เราเลยอยากจะตัดหนังชีวิตส่วนนี้ ออกไปจาก ความทรงจำ หรือ ความรู้สึกของเรา
ไอ้อาการอยากลืมนี่
มันก็เหมือนแมลงสาป ยิ่งหนี ยิ่งวิ่งเข้าหา ยิ่งแว๊บเข้ามาในใจเรา ความคิดของเราอยู่เรื่อย
นี่แหล่ะหนา ที่ใครๆบอกว่า ยิ่งลืม กลับจำ ยิ่งพยายามวิ่งหนี มันกลับยิ่งกระโจนเข้าใส่
หนึ่งในเรื่องที่คนเราอยากลืม มากที่สุด คือ ความรักเก่าๆที่ผิดหวัง ไม่สมดังใจ
ถ้าทำได้ ก็อยากจะ คลิ๊กขวาแล้วกดลบให้รู้แล้วรู้รอดไป (ถ้ามันทำได้อ่ะนะ)
แต่ชีวิตจริงไม่ได้มีโปรแกรมจัดการโฟล์เดอร์เหมือนในคอมพิวเตอร์
และ ระบบความทรงจำในสมองคนเราก็มีการจัดการที่ซับซ้อนกว่านั้น
การจัดการกับอาการอยากลืม เลยอาจจะต้องมีวิธีการมากมายและขั้นตอนซับซ้อนมากกว่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นสนใจเรื่องที่อยากลืมให้น้อยลง
สนใจสิ่งอื่นให้มากขึ้น
ยอมรับความผิดหวัง และปล่อยวางมันไว้
กล้าที่จะเริ่มต้นกับเส้นทางใหม่
แต่ทุกสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าจิตใจและความคิดของเราไม่กล้าและเข้มแข็งพอที่จะก้าวออกมาจากจุดเดิมๆเหล่านั้น
และนั่นคือ แรงผลักดันหลักที่จะทำให้ทุกคนก้าวข้ามผ่าน จุดที่เรียกว่า ลืม มาได้
แล้วคุณล่ะ?
ยังจำได้ไหม เรื่องสุดท้ายที่ตั้งใจจะลืม “นานแค่ไหนถึงจะลืม”
ปล. ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในแต่ละช่วงชีวิตของเรา
ทุกคนไม่มีใครลืมมันได้สนิทใจ หรือ หายไปหมดสิ้นจนไม่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำหรอก
เพียงแต่แค่ มันย้ายจากตำแหน่งที่สำคัญในความรู้สึกของคนเรา
ไปอยู่ในที่ที่เราอยากให้มันอยู่และถูกค้นพบในเวลาที่เราต้องการเพียงแค่นั้น
by H'esdy
http://facebook.com/HappyEverySingleDay
http://hesdyme.blogspot.com/
https://storylog.co/HappyEverySingleDay
https://storylog.co/HappyEverySingleDay
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น